ทุ่งดอกหงอนนาค..ภูสอยดาว จ.พิษณุโลก – จ.อุตรดิตถ์

26-29 กรกฎาคม & 9-12 สิงหาคม 2562


ภูสอยดาวเป็นเทือกเขาที่อยู่ระหว่างจังหวัดพิษณุโลกและจังหวัดอุตรดิตถ์ และยังเป็นเส้นกั้นพรมแดนระหว่างไทย-ลาว มียอดสูงสุด 2,102 เมตร จากระดับน้ำทะเล ณ ป่าผืนนี้เป็นแหล่งเดินป่าที่นักเดินทางทั้งหลายต้องการไขว่คว้าเพื่อได้สัมผัสกับธรรมชาติที่พิสุทธิ์ ตื่นตาตื่นใจกับลานสนบนภูสอยดาวที่มีทุ่งหญ้าและป่าสนเขานับพันๆไร่ มีความสูง 1,800 เมตรจากระดับน้ำทะเล บนลานสนมีลักษณะเป็นที่ราบเชิงลาดเอียง ชมดอกไม้ป่านานาชนิดที่ออกดอกบานสะพรั่งเต็มท้องทุ่ง ทุกอณูของธรรมชาติ ณ ผืนป่าแห่งนี้ไม่ว่าจะเป็นทุ่งหญ้าป่าสนเขา และดอกไม้ป่า รวมทั้งทัศนียภาพอันงดงามของน้ำตกภูสอยดาวทั้ง5ชั้น และน้ำตกลานสน จะแผ่ซ่านไปทั่วสรรพางค์กายของคุณ สร้างความประทับใจจนมิอาจลืมเลือนอย่างแน่นอน เชิญพิสูจน์ค้นหาความพิสุทธิ์ของธรรมชาติป่าภูสอยดาวเพื่อเป็นรางวัลให้กับชีวิตของตนเอง

วันแรกของการเดินทาง          20.00 น. ออกเดินทางจากกรุงเทพฯ มุ่งสู่อุทยานฯภูสอยดาว

ชมพู(Pedicularis nigra Vaniot ex Bonati) เป็นพืชเบียน

วันที่สองของการเดินทาง      

06.00 น. อรุณสวัสดิ์ยามเช้าที่อุทยานฯภูสอยดาว ล้างหน้าล้างตาและทานอาหารเช้า จากนั้นนำสัมภาระให้ลูกหาบแบกหรือจะแบกเองก็ตามใจ แล้วออกเดินทางลัดเลาะทวนขึ้นไปตามน้ำตกภูสอยดาวทั้ง 5 ชั้น แต่ละชั้นก็มีความสวยงามแตกต่างกันไป ก่อนไต่ระดับขึ้นไปตามสันเขา ผ่านลานหิน เนินปราบเซียน เนินผักกูดต้น เนินป่าก่อ สภาพป่าสองข้างทางเป็นป่าเบญจพรรณและป่าดิบเขา ระหว่างทางจะพบดอกไม้ป่านานาชนิด ทานอาหารเที่ยงแบบปิกนิกที่เนินเสือโคร่ง บ่ายๆพิชิตเนินมรณะซึ่งเป็นจุดชมวิวที่สวยงาม สามารถมองเห็นทิวทัศน์ได้เกือบรอบตัว ท่ามกลางลมเย็นๆและสดชื่นของขุนเขาที่หอบมาปะทะกายให้คลายเหนื่อยล้า ราวๆบ่าย2บ่าย3ก็ถึงลานสน..ตื่นตะลึงกับทุ่งหญ้าป่าสนเขาบนที่ราบที่กว้างไกลสุดลูกหูลูกตา ตั้งแค้มป์ริมลำน้ำและสนุกสนานกับการทำอาหาร

17.00 น. ยามเย็น..นั่งเล่นเดินเล่นริมหน้าผาด้านตะวันตก นับเป็นจุดชมทัศนียภาพของผืนป่าภูสอยดาว รวมทั้งชมอาทิตย์อัสดงลับเหลี่ยมขอบฟ้าและแนวขุนเขาได้อย่างงดงาม จากนั้นทานอาหารเย็น แล้วเชิญพักผ่อนตามอัธยาศัย ท่ามกลางเสียงอู้ของสนที่ต้องลมและอากาศที่หนาวเย็นอย่างมีความสุข

ลานสน

หมอกฝนห่มป่า

วันที่สามของการเดินทาง

06.00 น. ความหนาวเย็นของอากาศและละอองน้ำค้างปลุกให้พวกเราลุกขึ้นมาด้วยอาการกระปรี้กระเปร่า ทานอาหารเช้าแล้วออกเดินลัดเลาะไปตามทุ่งหญ้าป่าสนเขาที่สวยงาม ระหว่างทางเพลิดเพลินใจกับธรรมชาติของดอกไม้ป่าที่มีอยู่ตระการตา เดินลัดเลาะไปตามแนวพรมแดนไทย-ลาว ทานอาหารเที่ยง บ่ายๆชมน้ำตกลานสนหรือน้ำตกสายทิพย์ที่มีอยู่หลายชั้น ซึ่งตามบริเวณน้ำตกจะมีก้อนหินใหญ่น้อยถูกปกคลุมด้วยมอสส์และตะไคร่น้ำจนเขียวชอุ่ม ทำให้น้ำตกมีความสวยงามดั่งภาพจินตนาการ เย็นๆเดินไปริมหน้าผาเพื่อชมสนสามใบที่ขึ้นกระจัดกระจายอยู่ตามแนวไหล่เขา บางต้นมีมอสส์และไลเคนส์ปกคลุมลำต้นหนาแน่นดุจดั่งต้นไม้ใส่เสื้อ ชมดวงตะวันกลมโตลอยดวงต่ำลงลับขอบฟ้าฉายด้วยแสงอำพันเข้ม ทานอาหารเย็นแล้วร่วมสังสรรค์สนทนารอบกองไฟ ก่อนหลับฝันถึงการผจญภัยที่ผ่านมาท่ามกลางเสียงเพลงแห่งธรรมชาติของเหล่าแมลงปีกแข็งที่กรีดกราย

น้ำตกภูสอยดาว ชั้นแรก

จากเนินมรณะสู่ลานสน

วันที่สี่ของการเดินทาง          

06.00 น.แสงทองแห่งวันใหม่จับขอบฟ้า ทานอาหารเช้า แล้วนำสัมภาระให้ลูกหาบแบกหรือจะแบกเองก็ตามสบาย จากนั้นอำลาลานสนบนภูสอยดาวเพื่อเดินทางลงเขาตามเส้นทางเดิมๆ ทานอาหารเที่ยงและอาบน้ำชำระร่างกายที่อุทยานฯ ก่อนเดินทางกลับกรุงเทพฯ โดยแวะทานอาหารเย็นที่นครสวรรค์ พร้อมทั้งช้อปปิ้งของที่ระลึก ราวๆ 4-5 ทุ่ม ก็ถึงกรุงเทพฯโดยสวัสดิภาพ

การเตรียมตัวสำหรับการเดินทาง :

  1. เสื้อกันฝน,อุปกรณ์กันฝน,เสื้อกันหนาว
  2. รองเท้าผ้าใบเดินป่า,รองเท้าฟองน้ำหรือรัดส้น
  3. ถุงพลาสติกหรืออุปกรณ์ใส่เสื้อผ้าและกล้องถ่ายรูปกันเปียกน้ำ
  4. ไฟฉาย,กระติกน้ำ,หมอนลม,หมวกกันแดด
  5. ยาแก้โรคประจำตัว(ถ้ามี)
  6. จิตใจของผู้พิชิตที่ชอบเสาะแสวงหาธรรมชาติอันพิสุทธิ์

แบกสัมภาระของตัวเอง
รวมทั้งเต็นท์ และถุงนอน
(ที่เรามีให้)

 แบกสัมภาระเฉพาะของตัวเอง

 มีลูกหาบที่ว่าจ้างให้แบกสัมภาระได้

 ไม่ต้องแบกสัมภาระ

ค่าใช้จ่าย :

ท่านละ 4,150 บาท (สมาชิกฯ 3,750 บาท)

ค่าใช้จ่ายรวม :

รวมค่ารถตู้ปรับอากาศเดินทางไป-กลับ อาหารทุกมื้อ ค่าธรรมเนียม เจ้าหน้าที่นำทาง มัคคุเทศก์ เครื่องดื่ม รวมทั้งค่าประกันอุบัติเหตุทุกที่นั่งๆละ 500,00 บาท

หมายเหตุ
ผู้เข้าร่วมกิจกรรมนี้ ควรออกกำลังกายก่อนการเดินทางล่วงหน้าอย่างน้อย 2 สัปดาห์ สำหรับค่าลูกหาบแบกสัมภาระขึ้น-ลงเขา ท่านต้องเป็นผู้ออกค่าใช้จ่ายเอง และหากท่านใดไม่มีเต็นท์และถุงนอน สามารถติดต่อเช่าจากทางบริษัทฯได้

ติดต่อสอบถามรายละเอียดและสำรองที่นั่ง :

สนง.ใหญ่ วันจันทร์-วันศุกร์ เวลา 08.30-17.30 น. โทร.0-2245-4211 , 0-2247-5371-2 , 0-2642-4230-1 ต่อ 20 ; 0-2642-4831 (เบอร์ตรง) โทรสาร.0-2640-0020 e-mail : [email protected]

ท่านสามารถชำระเงินค่าบริการได้ศุกร์ เวลา 08.30-17.30 น. หรือสามารถชำระผ่านบัญชีธนาคารกสิกรไทย สาขาถนนรางน้ำ บัญชีออมทรัพย์ เลขที่บัญชี 010-8-78507-1 ชื่อบัญชี“นายโชติช่วง ศูรางกูร” โดยวางเงินมัดจำท่านละ 1,000 บาท ส่วนที่เหลือชำระก่อนการเดินทางล่วงหน้า 10 วันด้วยตนเอง

กรณีการชำระเงินผ่านบัญชีธนาคารฯ กรุณาส่งโทรสารใบโอนเงินมายังสโมสรฯที่เบอร์โทรสาร.0-2640-0020 หรือ e-mail : [email protected] พร้อมทั้งแจ้งชื่อ-นามสกุลของผู้ร่วมเดินทางทุกท่าน หมายเลขสมาชิกฯ(ถ้ามี) และเบอร์โทรศัพท์ที่สามารถติดต่อได้

*ขอสงวนสิทธิ์ในการเปลี่ยนแปลงโปรแกรมตามความเหมาะสม โดยไม่จำเป็นต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า